ลูกเรามีปัญหารึเปล่า? เทคนิคแก้พฤติกรรมก้าวร้าวให้ลูกรัก

เทคนิคการพูดคุยกับลูกให้เข้าใจ ไม่ทะเลาะกัน พร้อมปรับปรุงสภาพจิตใจให้ลูกมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี

ในยุคที่ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวพันกับเทคโนโลยีอย่างเช่นทุกวันนี้ ทำให้ลูกๆ ของเราเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย และบางครั้งก็ซึมซับเอาพฤติกรรมก้าวร้าวจากโลกออนไลน์มาใช้ในชีวิตจริง ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนหนักอกหนักใจ Smartplay Only มีข้อแนะนำการแก้พฤติกรรมก้าวร้าวของลูก ให้ลูกรักและเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่มากยิ่งขึ้น

ลูกๆ บ้านไหน กำลังหมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับโลกออนไลน์ เล่นเกมเยอะ จนแทบไม่ลุกไปไหน ไม่สนใจทำกิจกรรมอย่างอื่น หรือไปเข้าร่วมกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้รู้จักในชีวิตจริง บางครั้งอาจตกหลุมพรางของคนไม่ดี เป็นอันตรายต่อความคิด และสติของลูกเรา แบบที่ผู้ปกครองอาจคาดไม่ถึง คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยช่วยเหลือให้ลูกมีสติ คงไว้ซึ่งความคิดที่ดีงาม ตามที่พ่อกับแม่คอยอบรมสั่งสอนมา เพื่อให้ลูกได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ และมีความเชื่อมั่นในตัวเอง

คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ มีเวลาดูแลลูกน้อยลง ลูกจึงเริ่มไม่ค่อยเชื่อฟัง วันนี้คุณสังเกตพฤติกรรมของลูกๆ แล้วหรือยัง? Smartplay Only ขอแนะนำเทคนิค 5 อย่าง ในการพูดคุยกับลูกให้เข้าใจ ไม่ทะเลาะกัน พร้อมปรับปรุงสภาพจิตใจของลูกๆ ให้มีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี

5 เทคนิคพูดคุยกับลูกๆ อย่างเข้าอกเข้าใจ

1. หากลูกกำลังเล่าเรื่องให้ฟัง คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรพูดขัด คัดค้าน หรือพูดเถียงลูก ควรปล่อยให้ลูกเล่าเรื่องให้จบก่อน และรับฟังลูกอย่างตั้งใจ ให้เขารู้ว่า เราพร้อมรับฟังเขาเสมอ เมื่อลูกเล่าจบ จึงเริ่มให้คำแนะนำปรึกษา หลีกเลี่ยงการพูดประโยคหรือคำเดิมๆ ซ้ำๆ หลายครั้ง เด็กจะเบื่อและไม่ตั้งใจฟัง คุณพ่อคุณแม่ควรพูดสั้นๆ ให้ได้ใจความเพียงครั้งเดียว และถามความคิดเห็นเพิ่มเติมของลูกว่าเขาคิดอย่างไร

2. เทคนิคการสอนลูกให้เป็นผู้ฟังที่ดี จัดเวลาสำหรับการพูดคุยกันในครอบครัว โดยใช้อุปกรณ์หมอน 1 ใบ ล้อมวงพูดคุยกัน คนที่ถือหมอนอยู่เท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์พูด คนที่เหลือจะต้องตั้งใจฟังให้จบ ห้ามพูดแทรก เมื่อพูดจบแล้วจึงส่งหมอนให้คนที่ต้องการจะพูดต่อไป เป็นการฝึกเด็กๆ ให้รู้จักการอดใจรอคอยและรับฟัง จนกว่าตัวเองจะได้เป็นคนถือหมอน จึงจะมีสิทธิ์พูดความคิดเห็น

3. คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกมีสิทธิ์มีเสียง ที่จะปฏิเสธในสิ่งที่เขาไม่สนใจ ไม่ชอบ หรือไม่อยากทำ หยวนให้ลูกบ้าง ในเรื่องที่ไม่ส่งผลกระทบหนักหนามาก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูก ให้เขากล้าตัดสินใจ กล้าปฏิเสธเป็น การบังคับขู่เข็ญจะยิ่งทำให้ลูกอยากปลีกตัวออกห่าง เพราะคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่เข้าใจเขา อย่าใช้ความเป็นพ่อแม่ในการแสดงอำนาจกับลูก โดยเฉพาะการพูดในเชิงว่า หากยังอยู่ในบ้านหลังนี้ จะต้องเชื่อฟังพ่อกับแม่อย่างเดียวเท่านั้น เด็กจะยิ่งหาวิธีหนีออกจากบ้าน และมีความสัมพันธ์ที่ออกห่างจากคุณพ่อคุณแม่มากขึ้นไปอีก และอาจเดินไปในทางที่ผิดได้

4. พ่อแม่ล้วนอยากเห็นลูกมีอนาคตที่สดใส แต่ก็อาจมาพร้อมกับความคาดหวัง และสร้างความกดดันให้กับลูกของคุณ อย่าลืมให้เวลาลูกได้พักผ่อน เด็กเองก็ต้องการเวลาส่วนตัว รีบดึงสติตัวเองกลับมา เมื่อรู้ว่ากำลังกดดันลูกมากจนเกินไป แม้คุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเก่งในทุกๆ ด้าน และค้นพบพรสวรรค์ของตัวเอง แต่แบตเตอรี่ยังมีวันหมดได้ สมองของลูกๆ ก็ต้องการเวลา เพื่อรีชาร์จใหม่อีกครั้งเช่นกัน

5. สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตลูกได้ทุกวัน คือสภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของลูก คอยดูแลกลุ่มเพื่อนที่ลูกกำลังคบหา ว่าพวกเขาพากันไปทำกิจกรรมอะไร เล่นกีฬา หรือเล่นดนตรีอะไรเป็นส่วนใหญ่ คอยดูแลร่างกายของลูกให้มีความปกติสุข สังเกตว่าช่วงนี้ลูกเริ่มซูบผอม น้ำหนักเพิ่มขึ้น หรือมีอาการเจ็บป่วยใดๆ หรือไม่ หากของคุณลูกมีอาการปวดท้องอย่างไม่ทราบสาเหตุอยู่บ่อยๆ อาจมาจากความเครียดได้เช่นกัน คอยดูแลให้ลูกหันมาทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย จะช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูกได้ด้วย

RELATED : 5 เทคนิค แก้พฤติกรรม ลูกมีปัญหา

ลูกติดเกมหนัก เล่นอินเตอร์เน็ตนาน จนไม่สนใจสิ่งอื่น และปฏิเสธเมื่อขอให้หยุดเล่น เราสามารถแก้พฤติกรรมก้าวร้าวของลูก พร้อมปรับปรุงสภาพจิตใจของพวกเขาให้ดีขึ้นด้วย 3 สิ่งพื้นฐาน ดังต่อไปนี้

1. ดนตรี การเข้าถึงดนตรีด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือการให้ลูกฟังเพลง เลือกเพลงที่ช่วยเสริมเติมแต่งจินตนาการของลูก ยิ่งเป็นทำนองที่ไม่มีคำร้อง เปิดคล้อยฟังตามทุกวัน เด็กจะสร้างจินตนาการ สร้างคำขึ้นมาเอง ช่วยฝึกสมองได้ดีมาก

2. ศิลปะ การวาดรูป ระบายสี เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานสำหรับเด็กๆ สีสันช่วยกระตุ้นจินตนาการของเด็กๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด หรือจะฝึกเขียนตัวอักษรไทย ตัวอักษรอังกฤษ หรือตัวอักษรจีน จะช่วยฝึกสมาธิเด็กๆ ได้

3. กีฬา กิจกรรมสันทนาการที่ช่วยให้เด็กๆ หันหน้าออกจากหน้าจอมือถือ แท็บเล็ตได้ดีที่สุด เพราะกีฬาช่วยให้เด็กๆ ได้โฟกัสกับตัวเอง ให้ลูกเล่นกีฬาอะไรก็ได้ ที่ทำให้เหงื่อออก หัวใจเต้นแรง ให้ลูกได้เหนื่อย หน้าแดงก่ำ กีฬาแบบนี้คือได้ออกซิเจนเต็มๆ ที่สมองปอด หัวใจ จะรู้สึกโล่ง ปลอดโปร่ง กีฬาที่จะช่วยปลดปล่อยอารมณ์เครียดได้ดี เช่น วิ่ง, ว่ายน้ำ หรือชกมวย เป็นต้น

แต่หากคุณพ่อคุณแม่มีเวลาจำกัด และลูกๆ ของคุณไม่ชอบการออกกำลังกาย อิดออดทุกครั้งเมื่อขอให้เล่นกีฬา ลองมาแล้วหลายประเภทกีฬา แนะนำให้หันมาลองใช้แทรมโพลีน เครื่องออกกำลังกายที่บ้าน เป็นตัวช่วยในการสร้างความสนุกสนาน และสร้างสีสันให้กับลูกของคุณในทุกๆ วัน เพียงกระโดด แค่วันละ 10 นาทีเท่านั้น ร่างกายของเด็กๆ จะขยับขึ้นๆ ลงๆ หลังกระโดดจะพบกับความมหัศจรรย์ ความเครียดต่างๆ ที่สะสมมานานของทั้งพ่อ แม่ ลูกจะหายเป็นปลิดทิ้ง นั่นเป็นเพราะออกซิเจนถูกปั๊มไปที่ปอด สมอง หัวใจ เลือดหมุนเวียนไปทั่วร่างกาย เหงื่อออก หน้าแดงก่ำ กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายได้ผ่อนคลาย จึงทำให้รู้สึกโล่ง ปลอดโปร่ง สารแห่งความสุขหลั่งอย่างเต็มที่

แทรมโพลีน (Trampoline) เครื่องออกกำลังกายในบ้านจาก Smartplay Only แทรมโพลีนเกรดเยอรมัน ที่เหมาะกับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ รับประกันคุณภาพสินค้า เล่นแทรมโพลีนอย่างปลอดภัย ถนอมข้อเข่า ได้มาตรฐานแทรมโพลีนต้องแทรมโพลีนจาก Smartplay Only เท่านั้น เครื่องออกกำลังกายแทรมโพลีน ทุกคนในครอบครัวสามารถเล่นได้ เล่นง่าย สะดวกเล่นเองที่บ้าน ทุกที่ทุกเวลา เคลื่อนย้ายง่าย พับเก็บง่าย ไม่รกเกะกะบ้าน พาลูกๆ ของคุณพักสายตา ออกห่างจากเกมและโลกออนไลน์ต่างๆ หันมาลดความเครียด ลดโอกาสที่ลูกจะกลายเป็นคนก้าวร้าว ด้วยการกระโดดแทรมโพลีนตั้งแต่วันนี้ กับ Smartplay Only