5 วิธีช่วยระบบขับถ่าย และ 8 อาหารที่มีโปรไบโอติกสูง

บอกลาอาการท้องผูก ถ่ายยากทุกเช้า กับเคล็ดลับกระตุ้นการขับถ่าย

อาการท้องผูก ถ่ายยาก ปัญหาน่าหงุดหงิดใจที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย กลับมาใช้ชีวิตให้สบายขับถ่ายอย่างเป็นปกติอีกครั้ง ด้วย 5 วิธีกระตุ้นการขับถ่ายจาก Smartplay Only ที่ทุกคนสามารถทำตามได้ทุกเพศทุกวัย

ปัญหาท้องผูก ขับถ่ายไม่เป็นเวลา หรือขับถ่ายยากอยู่บ่อยๆ เป็นการส่งสัญญาณจากร่างกายที่สำคัญกว่าที่คุณคิด รู้สึกหรือไม่ว่ากว่า 70% ของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเราเกิดขึ้นที่บริเวณลำไส้นี่เอง หากคุณมีระบบขับถ่ายที่ดี ดูแลการขับถ่ายให้เป็นปกติ ภูมิคุ้มกันของคุณก็จะแข็งแรง และสุขภาพร่างกายของคุณโดยรวมของคุณก็จะดีขึ้น

5 เคล็ดลับกระตุ้นการขับถ่าย ทำตามได้ทุกเพศทุกวัย

1. เพิ่มปริมาณการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
บางคนรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้รับสารอาหารครบถ้วน 5 หมู่ทุกวัน แต่อาการท้องผูกยังคงเกิดขึ้น ถึงเวลาสำรวจปริมาณการดื่มน้ำในหนึ่งวันของคุณ ว่าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือไม่ การเพิ่มปริมาณน้ำให้กับร่างกายจะช่วยให้อุจจาระมีความอ่อนนุ่มมากขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายของเราจะต้องการน้ำประมาณ 2-3 ลิตรต่อวัน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของแต่ละบุคคล หากคุณออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือช่วงไหนมีอาการป่วยท้องเสีย อาเจียน ก็ควรดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้น

วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าร่างกายของเราได้รับน้ำเพียงพอหรือไม่ในแต่ละวัน คือสังเกตจากสีของปัสสาวะ หากปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มมาก ส่งกลิ่นเหม็นฉุน คุณควรรีบดื่มน้ำเพิ่มให้กับร่างกายทันที ปัสสาวะสีเหลืองอ่อนๆ ไม่ส่งกลิ่นฉุน เป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายของคุณมีปริมาณน้ำที่อยู่ในเกณฑ์กำลังพอดี และวิธีดื่มน้ำที่ถูกต้องคือควรจิบน้ำดื่มตลอดทั้งวัน ไม่ควรดื่มครั้งเดียวอย่างรวดเร็วคราวละมากๆ จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

2. ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาเดียวกันทุกๆ วัน
การขับถ่ายอย่างเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี ร่างกายได้ขับของเสียออกไปตลอด ผิวพรรณจะดีขึ้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการขับถ่ายคือ ตั้งแต่เที่ยงคืนไปจนถึงตอนเช้า เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ย่อยอาหารมื้อสุดท้ายมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ลำไส้ใหญ่สามารถขับกากอาหาร และเอาของเสียออกจากร่างกายได้ดี การฝึกขับถ่ายอาจต้องใช้เวลาในการฝึกฝนสักนิด แต่หากคุณสามารถทำจนติดกลายเป็นนิสัยได้ ร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัว และเป็นไปอย่างอัตโนมัติได้เอง

3. ฝึกนั่งขับถ่ายในท่าที่ถูกต้อง ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
หลายคนไม่รู้ว่าการนั่งหลังตรงบนโถส้วมในระหว่างขับถ่าย เป็นสาเหตุทำให้ลำไส้ถูกบีบรัดมากกว่าปกติในระหว่างการเบ่ง ทำให้ควบคุมการขับถ่ายได้ยากขึ้น หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมท่านั่งขับถ่ายของคุณ ให้เอียงโน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย นั่งทำมุมประมาณ 35 องศา ให้สามารถใช้เท้ายันพื้นได้ ท่านี้จะช่วยให้ลำไส้ใหญ่สามารถขับของเสียออกมาได้อย่างสะดวกมากขึ้น

4. รับประทานอาหารที่ประกอบด้วยโปรไบโอติก หรือเน้นอาหารที่มีกากใยสูง
อาหารที่ประกอบด้วยโปรไบโอติกมักเป็นอาหารที่อุดมด้วยกากใยสูง โปรไบโอติกคือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากสามารถเจริญเติบโตในลำไส้ได้เป็นอย่างดี จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับระบบลำไส้ กระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวในลำไส้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การขับถ่ายมีความคล่องตัวสูง ดังนั้นเราจึงควรเพิ่มโปรไบโอติกให้กับร่างกายเป็นประจำทุกวัน

โปรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ พบได้ตามแหล่งอาหารประเภทที่มีการหมักดอง ตัวอย่าง 8 อาหารที่มีโปรไบโอติกสูง คนมีอาการท้องผูก ขับถ่ายยาก ควรเพิ่มโอกาสในการเลือกรับประทาน ได้แก่ นมเปรี้ยว, โยเกิร์ต, กิมจิ, ถั่วนัตโตะญี่ปุ่น, ซุปมิโซะ, ชาหมักคอมบูชา, อาหารหมักถั่วเหลือง เทมเป้ และชีสบางประเภท เช่น มอสซาเรลล่าชีส หรือเชดด้าชีส เป็นต้น

5. ออกกำลังกายเป็นประจำ ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายเยอะๆ
หนึ่งในวิธีออกกำลังกายที่เคลื่อนไหวเยอะๆ ได้ทั้งร่างกายในคราวเดียว คือการกระโดดบนแทรมโพลีน (Trampoline) เครื่องออกกำลังกายในบ้านที่กำลังมาแรงฮอตฮิตสุดๆ ในบ้านเรา กระโดดบนแทรมโพลีนเพียง 10 นาที เทียบเท่ากับการวิ่งนานถึง 45 นาที ร่างกายจะเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กันทั้งตัว ทำให้เลือดเกิดการสูบฉีดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ปอด หัวใจ และกล้ามเนื้อตั้งแต่นาทีแรกที่เริ่มกระโดด

การออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวเยอะๆ บนเครื่องออกกําลังกายแทรมโพลีน ช่วยให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวตาม เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อในลำไส้ ส่งเสริมการบีบตัวของลำไส้ให้ดีขึ้น หัวมาออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ จะช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้ เพราะลำไส้มีการเคลื่อนตัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่เชื่อต้องลองกระโดดแทรมโพลีนดูสักครั้ง หลังกระโดดออกกำลังกายเสร็จ คุณอาจจะอยากเข้าห้องน้ำทันทีเลยก็ได้!
การมีสุขภาพลำไส้ดี ระบบย่อยอาหาร และการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะดีตามๆ กันไป นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอ และฝึกขับถ่ายในท่าที่ถูกต้องแล้ว การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างทุกระบบให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณเห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจน

เบื่อการออกกำลังกายวิ่งแบบเดิมๆ เปลี่ยนมาเล่นแทรมโพลีน (Trampoline) เครื่องออกกำลังกายในบ้านที่จะทำให้คุณอยากออกกำลังกระโดดขึ้นลงทุกวัน ความสนุกสนานที่มาพร้อมกับสุขภาพที่ดี ต้องยกให้เครื่องออกกําลังกายแทรมโพลีน ใช้งานง่าย ประหยัดพื้นที่ในบ้าน หลังใช้เสร็จแล้วสามารถพับเก็บได้ทันที

Smartplay Only จำหน่ายแทรมโพลีนเกรดพรีเมี่ยมจากเยอรมัน เปิดประสบการณ์เล่นแทรมโพลีนอย่างปลอดภัย ด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูงที่ได้การรับรองจากทีมวิศวกร ปรับปรุงและฟื้นฟูสุขภาพลำไส้ของคุณด้วยเครื่องออกกําลังกายแทรมโพลีน (Trampoline) พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม Smartplay Only แทรมโพลีนสตูดิโอที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีแทรมโพลีนหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกทดลองเล่น พบกับทีมงาน Smartplay Only ผู้เชี่ยวชาญด้านแทรมโพลีนที่จะมาให้คำแนะนำปรึกษาคุณอย่างจริงใจได้ที่โชว์รูมแบริ่ง 37